วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สถานที่ท่องเที่ยว ปาย

ปาย อิน เลิฟ

  เผลอแป๊บเดียว "ลมหนาว" กำลังจะมาเยือนอีกแล้ว หลาย ๆ คนคงกำลังรอคอยลมหนาวให้พัดผ่านมาอีกครั้งใช่ไหมล่ะ เพราะหน้าหนาวเป็นช่วงที่คนไทยชื่นชอบเอามาก ๆ อากาศไม่ร้อนมากนัก (จากที่ร้อนสุด ๆ กันมาแล้วในหน้าร้อน) ฝนฟ้าก็ไม่มีตกให้ต้องกังวลใจ แถมหลาย ๆ จังหวัดในเมืองไทย ก็ยังอากาศดี๊ดี...เย็นสบาย น่าไปพักผ่อนตากอากาศยิ่งนัก บางแห่งก็ปกคลุมไปด้วยไอหมอก ซึ่งเป็นบรรยากาศที่น่าเย้ายวนใจเป็นที่สุด




และเมื่อนึกถึงสถานที่ขึ้นชื่อในเรื่องการท่องเที่ยวในไอหมอก เมืองสามหมอกอย่าง"แม่ฮ่องสอน" ก็คงจะเป็นอันดับต้น ๆ ที่จะต้องพูดถึง และแน่นอนที่สุด "ปาย" คือเมืองในหมอกที่ใคร ๆ ก็ใฝ่ฝันถึง ปาย... เมืองเล็ก ๆ ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขาสูงตระหง่าน เป็นรอยต่อชายแดนไทย - พม่า ฤดูหนาวอากาศเย็นจัด ที่แห่งนี้มักปกคลุมด้วยสายหมอก ละอองน้ำจาง ๆ ยามเช้า และด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของผู้คน ทำให้เมือง ปายยังคงความเป็นธรรมชาติ ไว้สูง ความเจริญทางวัตถุยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงที่นี่ได้มากนัก เอกลักษณ์เหล่านี้ดึงดูดนักเดินทางให้มาสัมผัสมนต์เสน่ห์ของ เมืองปายได้นักต่อนัก




แน่นอนว่าใครที่ได้มาเยือนเมืองปาย คงอดไม่ได้ที่จะตื่นขึ้นมาสัมผัสไอหมอกตั้งแต่เช้าตรู่ จิบกาแฟหอมกรุ่น พร้อมอาหารเช้าแบบชาวพื้นเมือง หรือถ้าอยากชมบรรยากาศของเมืองก็สามารถเช่าจักรยานขี่เที่ยวชมเมืองได้สบาย ๆ หรือล่องแก่งแม่น้ำปาย ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ หรือจะเลือกขี่ช้าง เดินป่า ก็ย่อมได้ตามสไตล์ของนักลุยเลยล่ะ



บรรยากาศที่ ปาย อิน เลิฟ










เส้นทาง: ไปปาย



ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คำศัพท์สัปดาห์ที่3

คำศัพท์ 3

1.Sociotechnical Approach  คือ แนวทางผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและสังคม
2.Static Web Page  คือ เป็น เวบเพจ (Web Page) หรือโฮมเพจ (Home Page) ที่ถูกกำหนดตายตัว จะเปลี่ยนแปลงได้ ในกรณีถูกแทน หรือแก้ไขเพิ่มเติมโดยผู้ควบคุมระบบเท่านั้น ผู้ใช้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโต้ตอบ หรือควบคุมการค้นหาข้อมูลในฐานข้อมูลได้
3.Application Software หมายถึงซอฟต์แวร์ประยุกต์เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กับงานด้านต่าง ๆ ตามความต้องการของ User ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้โดยตรงปัจจุบันมีผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ใช้งานทางด้านต่าง ๆ ออกจำหน่ายมาก การประยุกต์งานคอมพิวเตอร์จึงกว้างขวางและแพร่หลาย
4. CMS(Content Management System) หมายถึง ระบบการจัดการเนื้อหา
5. LMS(Learning Management System) หมายถึง ระบบจัดการเรียนการสอนโดยผ่านเครือข่าย
6. Cloud Computing หมายถึง เป็นโปรแกรมที่สามารถบันทึกข้อมูลต่างๆเหมือน Handy drive ที่บันทึกผ่าน Internet แต่จะสะดวกกว่า
7.FLV คือ ไฟล์ Flash ประเภทหนึ่งที่นิยมใช้สำหรับการแปลงจากไฟล์วีดีโอทั่วไป และนำมาแสดงบนระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
8.IM ย่อมาจาก Instant Massenger  คือ บริการที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกันบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถโต้ตอบได้ทันที
9. Virtual Machine คือ ระบบปฏิบัติการที่ทำให้สามารถใช้ซอฟต์แวร์ เพื่อจำลองการทำงานของคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น เสมือนมีคอมพิวเตอร์ เครื่อง หรือมากกว่านั้น ซ้อนกันอยู่ในคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว

10. BOOTP (Bootstrap Protocol) คือ เป็นโปรโตคอลที่ให้ผู้ใช้เครือข่าย สามารถทำการคอนฟิกโดยอัตโนมัติ            (รับ IP address) และมีการบู๊ตระบบปฏิบัติการหรือเริ่มต้นจะไม่มีการเกี่ยวข้องของผู้ใช้ เครื่องแม่ข่าย BOOTP ได้รับการบริหารโดยผู้บริการเครือข่าย ซึ่งจะกำหนด IP address อย่างอัตโนมัติจากกองกลางของ IP address สำหรับช่วงเวลาที่แน่นอน

วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คำศัพท์สัปดาห์ที่2

คำศัพท์2


1.Physical Layerเป็นเลเยอร์ล่างสุดสาหรับจัดเตรียมอุปกรณ์เกี่ยวกับระบบไฟฟ้า และกลไกการทางานในการเชื่อมต่อของระบบเครือข่าย เป็นนิยามของความเกี่ยวเนื่องกันระหว่างอุปกรณ์ฐานล่างและเลเยอร์ในระดับกลาง

2.Data Link Layerเป็นเลเยอร์สาหรับการจัดเตรียมหน้าที่ และกระบวนการในการส่งผ่านข้อมูลระหว่างเครือข่าย และตรวจสอบความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นใน

3.Physical Layer แรกเริ่มนั้นเลเยอร์นี้จะกล่าวถึงในระบบโทรศัพท์ ที่มีการสื่อสารจากตาแหน่งหนึ่งไปยังอีกตำแหน่งหนึ่ง หรือจากตาแหน่งหนึ่งไปยังอุปกรณ์รับสัญญาณ จากนั้นจึงพัฒนาต่อมาจนถึงในระบบแลน (LAN) ด้วย ซึ่งมีรูปแบบการสื่อสารที่ซับซ้อนกว่า สาหรับโปรโตคอลที่อยู่ในเลเยอร์นี้ก็คือ TCP (Transport Control Protocol) ที่ทำหน้าที่ให้เครื่องคอมพิวเตอร์สื่อสารกันได้บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

4.Network Layerเป็นเลเยอร์ที่จัดเตรียมหน้าที่ และกระบวนการในการส่งข้อมูลจากต้นทางไปยังปลายทางภายในเครือข่าย โดยการดาเนินการจะทาการรับข้อมูลที่ส่งออกจากต้นทาง และรวมข้อมูลหรือแยกส่วนข้อมูลมาเป็นแพ็กเกจ (Package) และเพิ่มข้อมูลตาแหน่งปลายทางที่ส่วนหัวของแพ็กเกจเพื่อใช้ในการส่งโปรโตคอลที่รู้จักกันดีซึ่งอยู่ในเลเยอร์นี้ คือ IP (Internet Protocol) ซึ่งจะคอยจัดการเส้นทางการเดินทางของข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

5.Transport Layerเป็นเลเยอร์ที่ทาหน้าที่จัดเตรียมการส่งผ่านข้อมูลระหว่างผู้ใช้งาน จัดเตรียมข้อมูลที่เชื่อถือได้ให้กับเลเยอร์ถัดไป โดยควบคุมความถูกต้องในการเดินทางของข้อมูล และความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นสาหรับโปรโตคอลที่ทางานอยู่บนเลเยอร์นี้ ก็เช่น TCP (Transmission Control Protocol) และ UDP (User Datagram Protocol)

6.Session Layerเป็นเลเยอร์ที่ควบคุมเซสชั่น (Session) การเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่าย จัดการการสื่อสารระหว่างกัน ทั้งแบบ Full-duplex, Half-duplex และ Simplex โดยมีกระบวนการสร้างจุดตรวจสอบ การเคลื่อนย้ายเซสชั่น การจัดการ และการเริ่มต้นเซสชั่นใหม่ ถูกนาไปใช้เป็นส่วนของแอพพลิเคชั่น (Application) เพื่อใช้งานเกี่ยวกับกระบวนการ Remote Procedure Calls (RPC)

7.Presentation Layerเป็นเลเยอร์สาหรับจัดเตรียมการรับและจัดโครงสร้างของข้อมูล เพื่อส่งต่อให้เลเยอร์ถัดไป โดยอาจมีการแปลข้อความที่ได้เป็นโค้ด หรือมีการเข้ารหัส/ถอดรหัสข้อมูลตามคาสั่งที่ได้รับ โดยกาหนดรูปแบบของการสื่อสาร อย่างเช่น ASCII Text, EBCDIC, Binary และ JPEG รวมถึงการเข้ารหัส (Encryption) ก็รวมอยู่ในเลเยอร์นี้ด้วย

8.Application Layerเป็นเลเยอร์ชั้นบนสุด ซึ่งเป็นการจัดเตรียมแอฟฟลิเคชั่นไว้ให้คอยบริการใช้งาน รูปแบบต่างๆ บนเครือข่าย ซึ่งจะร้องขอจาก Presentation Layer เพื่อดาเนินการตามกระบวนการลงไปชั้นเลเยอร์ต่างๆ สาหรับบริการโปรโตคอลที่เกี่ยวกับเลเยอร์นี้ เช่น FTP (File Transfer Protocol) Mail Transfer (SMTP/POP3/MAP Protocol) และเว็บเบราเซอร์ที่ทางานอยู่บน HTTP (Hypertext Markup Language Protocol)

9. EDI ย่อมาจาก Electronic Data Interchange หมายถึง กระบวนการที่ช่วยให้องค์กร ทางธุรกิจสามารถแลกเปลี่ยนเอกสารที่เป็นแบบฟอร์มต่างๆ เช่น ใบส่งของ ใบสั่งซื้อ หรืออื่นๆ ในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทำให้สะดวก รวดเร็ว แม่นยำ ลดเอกสารลงได้มาก รวมทั้งเชื่อมโยงกกับระบบการควบคลุมคลังสินค้าได้ดี

10. Static Web Page หมายถึง เป็นเวบเพจ (Web Page) หรือโฮมเพจ (Home Page) ที่ถูกกำหนดตายตัว จะเปลี่ยนแปลงได้ในกรณีถูกแทนหรือแก้ไขเพิ่มเติมโดยผู้ควบคุมระบบเท่านั้น ผู้ใช้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโต้ตอบ หรือควบคุมการค้นหาข้อมูลในฐานข้อมูลได้

วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คำศัพท์สัปดาห์ที่1

คำศัพท์ 1


1. Administrative Security   การบริหารเรื่องความปลอดภัยข้อกำหนดทางการจัดการและสิ่งควบคุมเสริมต่างๆที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้การป้องกันข้อมูลอยู่ในระดับที่ยอมรับได้

2. Voyeur  ผู้โจมตีคอมพิวเตอร์เพื่อความตื่นเต้นเมื่อตนได้ซึ่งข้อมูล

3. Vandals  ผู้โจมตีที่โจมตีคอมพิวเตอร์เพื่อให้เกิดความเสียหาย

4. Tiger  เครื่องมือ Software ที่ Scan หาจุดอ่อนระบบ

5. Spies  สายลับ ผู้โจมตีที่โจมตีคอมพิวเตอร์เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

6.Misvse Detection Model คือ การตรวจจับการบุกรุกโดยการมองหากิจกรมเกี่ยวกับเทคนิคการบุกรุกที่ทราบ

7. Packet Filtering คุณลักษณะ ที่เพิ่มเข้าไปใน router หรือ bridge เพื่อที่จะจำกัดการไหลของข้อมูลตามข้อกำหนดที่ตกลงกันไว้ก่อน เช่น แหล่งส่ง, แหล่งรับ, หรือชนิดของบริการที่เครือ-ข่ายมีให้

8. Packet Sniffer อุปกรณ์หรือ program ที่เฝ้าดูข้อมูลที่ไหลไปมาระหว่างคอมพิวเตอร์ในเครือข่าย

9. hashing เป็นการปรับแปลงข้อความของตัวอักษรเป็นค่าความยาวตายตัวสั้นกว่าหรือคีย์ที่นำเสนอข้อความดั้งเดิม hashing ได้รับการใช้เป็นดัชนี และรายการที่ดึงออกมาจากฐานข้อมูล เพราะเร็วกว่าในการค้นหารายการด้วยการใช้คีย์แฮชสั้นกว่าการค้นหาด้วยการใช้ค่าดั้งเดิม รวมถึงการใช้อัลกอริทึมเข้ารหัส


10. Integrity ในคำศัพท์ของความปลอดภัยข้อมูลและเครือข่าย Integrity เป็นการประกันว่าสารสนเทศสามารถได้รับการถึงหรือปรับปรุงโดยผู้ได้รับอำนาจเท่านั้น มาตรการให้สร้างความมั่นใจ

วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ทำภาพซ้อน ด้วยโปรแกรม Photoshop

วิธีทำภาพซ้อน ด้วยโปรแกรม Photoshop

ขั้นตอนการซ้อนภาพในโปรแกรม Photoshop

เปิดโปรแกรม photoshop ขึ้นมาแนะนำเป็นเวอร์ชั่น CS3 ขึ้นไป เพราะถ้าเก่ากว่านี้จะไม่มีคำสั่งเรียกสคริป (Load Files into Stack) ต้องประยุกต์เรียกภาพมาซ้อนเลเยอร์เอง เมื่อโหลดภาพเข้าคอมเรียบร้อยแล้ว เปลี่ยนชื่อไฟล์ภาพเล็กน้อยตั้งเป็น 1 2 3 4 5 เรียงไปเรื่อยๆ อันดับสุดท้ายเป็นภาพฉากว่างๆ  ในตัวอย่างนี้มีทั้งหมด 5 ภาพ ภาพที่ 5 จะมีแต่ฉากไม่มีตัวแบบ เปิดโปรแกรม photoshop ขึ้นมาแนะนำเป็นเวอร์ชั่น CS3 ขึ้นไป เพราะถ้าเก่ากว่านี้จะไม่มีคำสั่งเรียกสคริป ต้องประยุกต์เรียกภาพมาซ้อนเลเยอร์เอง เมื่อเปิดแล้ววให้ไปที่เมนู File > Scripts > Load Files into Stack… ตามภาพที่ 1



เมื่อเข้าไปแล้วจะมีกรอบ Load Layers กด Browse เลือกไฟล์ภาพที่ได้เตรียมไว้ทั้งหมด แล้วกด OK ภาพที่ 2


ภาพทั้งหมดจะเข้ามาอยู่ที่หน้าจอทำงาน ดูได้จากช่อง Layers  ขั้นตอนต่อไปทำเพิ่ม  Layers  mask โดยการเลือกเลเยอร์ที่ต้องการแล้วกดปุ่ม Add Layers  mask ที่อยู่ด้านล่าง จะมีช่องสี่เหลี่ยมและวงกลมเล็กๆ กดแล้วจะมีช่องสีขาวต่อจากภาพในช่องเลเยอร์ ทำซ้ำกับเลเยอร์อื่นๆ ส่วนเลเยอร์สุดท้ายที่ตั้งชื่อไว้ว่า 5 ไม่ต้องกดเพิ่มปล่อยให้ว่างๆไว้ ภาพ 3



หน้าที่ของ Layers  mask คือ เป็นเหมือนหน้ากากที่เราปรับแต่งในช่อง Mask นี้แล้ว ภาพจริงยังสมบูรณ์อยู่ เพียงแต่ถูกบังไว้ด้วย Mask ที่แปลว่าหน้ากากนั่นเอง เสร็จแล้วกลับไปเลือกเลเยอร์บนคือเลเยอร์ที่ 1

ที่ซ้ายมือให้สังเกตว่ากรอบเมนูทูลด้านล่าง จะมีสี่เหลี่ยมสีดำอยู่บนแบคกราวสีขาว สามารถสลับกันได้โดยกดเครื่องหมายลูกศรสองหัวโค้งเล็กๆที่อยู่ด้านบน เราจะให้ฟอร์กราวด้านหน้าเป็นสีดำ และแบคกราวเป็นสีขาวดังภาพ ตลอดขั้นตอนการทำงาน ภาพที่ 4



กลับไปที่ช่องเลเยอร์อีกครั้ง เลือกเลเยอร์ 1 แล้วกดให้ช่อง Mask เฉพาะในกรอบสีขาวให้แอคทีฟ ซึ่งจะมีกรอบเล็กๆเพิ่มขึ้นมาให้เห็น ภาพที่ 5


ไปที่เครื่องมือพู่กัน  Brush Tool (B) ปรับความเข้ม Opacity และความฟุ้ง Flow ที่เมนูด้านบนเล็กน้อย หรือจะไม่ปรับก็ได้ ปรับขนาด Brush ได้โดยการกดเครื่องหมาย [ เพื่อลดขนาด และ ] เพื่อเพิ่มขนาด Brush  (ฝึกใช้ให้คล่อง) เสร็จแล้วไประบายทับที่ตัวภาพ เป็นการลบภาพของตัวแบบให้เห็นแบคกราวหรือฉากหลัง ระวังเรื่องขอบตัวแบบให้ดี ที่เห็นว่าไม่มีอะไร ถ้าไม่ระวังแต่จะมีปัญหากับภาพที่ซ้อนภายหลัง ดังนั้นค่อยๆลบอย่างเนียนๆตรงบริเวณที่คิดว่าตัวแบบจะทับซ้อนกัน ซึ่งจะกล่าวต่อไป ภาพที่ 6



เมื่อระบบหรือลบตัวแบบออกแล้ว ให้กดปุ่ม Ctrl + i  กรอบ Mask เดิมที่เป็นสีขาวจะสลับ กลายเป็นสีดำ ในส่วนที่ลบจากเดิมสีดำจะกลายเป็นสีขาวแทน  ทำแบบนี้กับเลเยอร์ 24 ที่เหลือ เราจะเห็นภาพของตัวแบบปรากฏซ้อนกันจนครบ

ปัญหาที่พบจากที่บอกไว้ในตอนแรกคือเราระบายเกินขอบของตัวแบบทำให้เมื่อตัวแบบมีการทับซ้อนกันแล้ว ภาพจะแหว่งไปไม่สมบูรณ์ เราต้องมาทำการซ่อมแซมแก้ไขกันต่อไป ดังภาพที่ 7



เมื่อปิดรูปดวงตาหน้าช่อง Layers ไหนเลเยอร์นั้นมองไม่เห็น เราจะเห็นภาพอื่นๆ ทดลองโดยการปิดตาที่เลเยอร์สุดท้าย เราจะเห็นตัวแบบบนเลเยอร์ด้านบนที่เราทำไว้ทั้งหมด ภาพที่ 8




สำหรับขอบที่แหว่งๆบนตัวแบบที่ทับซ้อนกัน เราซ่อมแซมได้โดยการไปเลือกที่เลเยอร์ที่มีปัญหานั้น กดเลือกปุ่ม Brush Tool  (B) หรือ Eraser Tool (E) เพื่อระบายและลบจุดที่เป็นปัญหา กดปุ่มช็อตคัทตัว B หรือ E (รูปยางลบ) จะได้สลับเครื่องมือบน Tool ได้ไวขึ้น ถ้าปรับแต่งพลาดก็กด Ctrl+Z เพื่อ Undo ย้อนกลับไปมาได้ ถ้าพลาดไปหลายจุดก็ไปจัดการในเครื่องมือ History (ศึกษาเรื่องUndo และ History สำหรับ photoshop เพิ่มเติม)



เมื่อปรับแต่งจนสมบูรณ์แล้ว ก็ไปที่เมนู File เลือกคำสั่ง Save หรือ Save As เก็บไว้เป็นไฟล์ PSD; PDD  ไว้ปรับแต่งแก้ไขในภายหลัง หรือเลือก Save for  web & Devices… เพื่อบีบอัดขนาดไฟล์ภาพไว้แสดงบนเว็บแบบ jpeg ต่อไป จบขั้นตอนการซ้อนภาพแบบ Multiplicity ใน photoshop



วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แบบทดสอบก่อนเรียนปี2

แบบทดสอบก่อนเรียน
จงให้คำนิยามของคำศัพท์ต่อไปนี้

1. Operating System หรือ OS หมายถึง เป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างคนกับเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องนั้นจะต้องมีOS อย่างใดอย่างหนึ่งเช่น Windows7, Windows8, Windows XP , Linux
2. DBMS(Data Base Management System) หมายถึงระบบการจัดการฐานข้อมูล
3. Application Software หมายถึงซอฟต์แวร์ประยุกต์เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กับงานด้านต่าง ๆ ตามความต้องการของ User ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้โดยตรงปัจจุบัน
มีผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ใช้งานทางด้านต่าง ๆ ออกจำหน่ายมาก การประยุกต์งานคอมพิวเตอร์จึงกว้างขวางและแพร่หลาย
4. Package Software หมายถึง ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป ที่มีการขาย และเช่า
5. Open Source หมายถึง วิธีการออกแบบ พัฒนาโดยเฉพาะซอฟต์แวร์
6. Freeware หมายถึง ซอฟต์แวร์ที่ให้ใช้ฟรี
7. Utility Software หมายถึง  เป็นโปรแกรมที่ให้เพิ่มสมรรถนะที่ให้โดยระบบปฏิบัติการ
8. CMS(Content Management System) หมายถึง ระบบการจัดการเนื้อหา
9. LMS(Learning Management System) หมายถึง ระบบจัดการเรียนการสอนโดยผ่านเครือข่าย
10. Cloud Computing หมายถึง เป็นโปรแกรมที่สามารถบันทึกข้อมูลต่างๆเหมือน Handy drive ที่บันทึกผ่าน Internet แต่จะสะดวกกว่า



ให้นักศึกษาตอบคำถามต่อไปนี้

2.1 ยกตัวอย่าง ระบบปฏิบัติการที่นักศึกษารู้จักมา 3 ระบบปฏิบัติการ พร้อมบอกข้อดีข้อเสียของแต่ละระบบปฏิบัติการ
ตอบ 1. Windows8 ข้อดี : บูตเครื่องเร็ว
                         ข้อเสีย : ยังมีการผลิตแอพน้อย
       2. Windows7 ข้อดี : ประสิทธิภาพดีกว่า Windows XP
                         ข้อเสีย : ใช้พื้นที่ฮาร์ดดิสก์จำนวนมาก
       3. Linux        ข้อดี : ติดตั้งง่าย ไม่สับซ้อน
                         ข้อเสีย : การลงโปรแกรมต้องใช้ Internet

2.2 ยกตัวอย่างโปรแกรมสำหรับใช้จัดการฐานข้อมูลที่นักศึกษารู้จักมา3 โปรแกรมพร้อมอธิบายคุณสมบัติเด่นๆของแต่ละตัว
ตอบ  1. Access
          จุดเด่น
            - มีรหัสผ่านป้องกันข้อมูลได้
         2.MySQL
          จุดเด่น
           - สามารถทำงานที่ซับซ้อนโดยใช้ไม่แค่กี่คำสั่ง
         3.FoxPro
         จุดเด่น
          - ใช้งานได้ง่าย

2.3 ยกตัวอย่างโปรแกรมที่ใช้งานในสำนักงานทั่วไป (Office)ที่นักศึกษารู้จักมา 2 โปรแกรมว่าแต่ละตัวมีโปรแกรมย่อยๆ อะไรพร้อมอธิบายคุณสมบัติเด่นๆ
ตอบ  1.Microsoft Office Power Point
             - การนำเสนอ
         2.Microsoft Office Exel
             - การคำนวณ

             - สร้างตาราง